PMI เป็นวิธี การทดสอบแบบไม่ทำลาย (NDT) หรือบางกรณีอาจทำลายเล็กน้อย ใช้สำหรับ ยืนยันชนิดวัสดุโลหะหรือโลหะผสม ว่าเป็นไปตามมาตรฐานหรือสเปคที่กำหนด โดยเฉพาะในงานอุตสาหกรรมที่ต้องการความถูกต้องของวัสดุ เช่น เหล็กกล้า สแตนเลส หรือโลหะผสมพิเศษ

หลักการทำงาน

• ใช้อุปกรณ์วิเคราะห์องค์ประกอบทางเคมีของวัสดุ
• เปรียบเทียบค่าที่ได้กับมาตรฐานวัสดุ (Material Standard)
• ผลทดสอบระบุประเภทโลหะ, องค์ประกอบทางเคมี และเกรดวัสดุ

ข้อดีของ PMI

• ยืนยันชนิดวัสดุอย่างแม่นยำ
• ป้องกันการใช้วัสดุผิดประเภท
• ตรวจสอบวัสดุในชิ้นงานที่ติดตั้งแล้วได้
• รวดเร็วและไม่ต้องตัดตัวอย่างใหญ่

ขั้นตอนการทดสอบ PMI

1. เตรียมงาน: ทำความสะอาดพื้นผิวชิ้นงาน
2. ตั้งค่าอุปกรณ์: Calibrate เครื่องมือด้วยมาตรฐาน
3. ทำการทดสอบ: สแกนหรือสัมผัสวัสดุด้วย Probe
4. วิเคราะห์ผล: เปรียบเทียบกับค่ามาตรฐานวัสดุ
5. รายงานผล: ระบุชนิดวัสดุ, เกรด และองค์ประกอบทางเคมี

ข้อควรระวัง

• พื้นผิวต้องสะอาดและปราศจากสีหรือคราบสนิม
• เลือกเครื่องมือและ Calibration ให้เหมาะสมกับวัสดุ
• บางวิธีต้องทำบนพื้นผิวโลหะเปลือยเท่านั้น